เชื่อได้เลยว่าหลาย ๆ คนจะต้องเป็นโรคไมเกรนกันอย่างแน่นอน ซึ่งโรคไมเกรนนั้นจะเป็นอาการปวดหัวข้างเดียว ที่มักจะเกิดขึ้นได้ง่ายกับวัยทำงาน ที่จำเป็นต้องเผชิญความเครียดสะสม ทั้งในเรื่องการทำงาน ปัญหาส่วนตัว และเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย จนกลายมาเป็นโรคยอดฮิตเลยก็ว่าได้ แต่รู้หรือไม่ว่าไมเกรนสามารถรักษาได้เช่นเดียวกัน และ วิธีแก้ปวดไมเกรน จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม เพราะต้องบอกตามตรงว่า อาการปวดหัวไมเกรนถือเป็นอาการที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก เพราะอาการจะรุนแรงมากขึ้นได้เมื่อได้การกระตุ้นจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ได้แก่ แสงแดดจ้า ได้กลิ่นควัน หรือได้รับเสียงดัง ๆ จะทำให้ปวดหัวไมเกรนเพิ่มขึ้นกว่าเดิม เพราะฉะนั้นโรคไมเกรนจะเป็นโรคที่ทุกคนไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว
วิธีแก้ปวดไมเกรน อยากแก้ให้ถูกจุดต้องรู้ก่อน “ปวดหัวไมเกรนคืออะไร”
ไมเกรน (Migraines) จะเป็นโรคที่ทำให้เราเกิดอาการปวดศีรษะรุนแรง และจะรู้สึกปวดตุบ ๆ อยู่ตลอดเวลา โดยปกติแล้วไมเกรนมักจะมีอาการปวดหัวข้างเดียว หรืออาจจะปวดข้างเดียวก่อน และค่อย ๆ ลามไปปวดทั้งสองข้าง หากใครที่มีอาการปวดหัวรุนแรงอาจจะมีอาการอื่น ๆ ตามไปด้วย อย่างเช่น อาการคลื่นไส้และอาเจียนร่วมด้วย
อีกทั้งยังมีความรู้สึกที่ไวต่อเสียง กลิ่น และแสงสว่างมากกว่าปกติอีกด้วย ซึ่งบางคนอาจจะมีอาการที่ปวดนานกว่า 4 – 24 ชั่วโมงติดต่อกันเลยทีเดียว ผู้ที่มีอาการปวดมากขึ้น ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราเคลื่อนไหวร่างกาย หรือได้รับแรงสั่นสะเทือนต่อร่างกาย ดังนั้นวิธีแก้ปวดไมเกรนผู้ป่วยไมเกรนจึงจำเป็นต้องอยู่ในที่สงบ ไม่มีเสียงดัง ไม่มีแสงรบกวน หรือนอนอยู่นิ่ง ๆ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เราขยับตัว อาการปวดหัวจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
อาการปวดหัวไมเกรนเป็นอย่างไร
ก่อนที่เราจะปวดหัวไมเกรน มักจะมีอาการล่วงหน้าที่จะบอกให้เรารู้ก่อนว่า จะเป็นไมเกรนอย่างแน่นอน ซึ่งอาการนำก่อนเป็นไมเกรน ทางการแพทย์จะเรียกอาการนี้ว่าออร่า (Aura) ซึ่งโดยทั่ว ๆ ไปมักจะพบได้ประมาณ 20 – 30% อาการของแต่ละบุคคลจะมีความแตกต่างกันออกไป และมีการรักษาอาการปวดไมเกรนที่แตกต่างกันด้วย เช่น การมองเห็นภาพที่ผิดปกติ เห็นภาพบิดเบี้ยวไปจากเดิม เห็นแสงระยิบระยับ มีอาการเบลอ อาการชาส่วนต่าง ๆ ตามร่างกาย นึกคำพูดไม่ออก หรือสื่อสารผิดปกติ ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นประมาณ 5 – 20 นาทีก่อนเริ่มมีอาการปวดศีรษะ
และเมื่อเรามีอาการปวดศีรษะแล้ว โดยปกติจะปวดเพียงข้างเดียวจะข้างซ้ายหรือข้างขวาก็ได้ แต่หากใครที่มีอาการรุนแรงก็อาจจะปวดสองข้างได้เช่นกัน โดยอาการปวดหัวไมเกรนจะแตกต่างจากปวดหัวปกติ เพราะไมเกรนจะปวดหัวตุบ ๆ เหมือนสมองเต้นแรงอยู่ตลอดเวลา และจะกินเวลาปวดนานกว่า 4 – 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว หลังจากปวดหัวไมเกรนแล้วจะรู้สึกหมดแรง อ่อนแรง หรือบางคนอาจจะรู้สึกสับสนได้ วิธีแก้ไมเกรนด้วยตัวเองจะสามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพียงกินยาไมเกรน หรือบางคนอาจจะนอนนิ่ง ๆ หรือนอนหลับไปเลย เพื่อบรรเทาอาการได้ดีที่สุด
สาเหตุของการปวดศีรษะไมเกรน
โดยทางการแพทย์ได้สันนิษฐานว่าไมเกรน เป็นผลจากความผิดปกติชั่วคราวของการทำงานในสมอง ไมเกรนเกิดจากหลอดเลือด ที่จะมีผลกระทบต่อเส้นประสาท สารเคมี และหลอดเลือดในสมอง แต่สาเหตุที่แท้จริงของการปวดหัวไมเกรนนั้น จะยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้อย่างแน่นอน อาจจะเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย และมีการรักษาอาการปวดไมเกรนที่หลากหลายออกไป ขึ้นอยู่กับสาเหตุและอาการที่ปรากฏเป็นสำคัญ
- การกระตุ้นในเรื่องของอารมณ์: ทั้งในเรื่องของความเครียด การมีภาวะตึงเครียดมากเกินไป การวิตกกังวล อาการตกใจ ช็อก ภาวะซึมเศร้า รวมทั้งความตื่นเต้นด้วยเช่นกัน ซึ่งอารมณ์เหล่านี้จะทำให้สมองต้องทำงานหนัก และอาจจะทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนได้ในที่สุด
- สิ่งกระตุ้นที่อาจทำให้เกิดไมเกรน: ปัจจัยในเรื่องของสิ่งกระตุ้นรอบ ๆ ตัวเรา อาจจะเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดไมเกรนได้เช่นกัน อย่างเช่น อารมณ์ของร่างกาย การรับประทานอาหาร สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ รวมไปถึงการใช้ยา เป็นต้น ซึ่งสิ่งกระตุ้นเหล่านี้จะส่งผลที่แตกต่างกันออกไปตามบุคคล บางคนอาจจะได้รับมลพิษทางสิ่งแวดล้อม อย่างเช่น ฝุ่น ควัน และแสงแดดเป็นจำนวนมาก ทำให้กระตุ้นจนเกิดไมเกรนได้ในที่สุด หรือบางคนอาจจะได้ยินเสียงดังมากเกินไปเป็นเวลานาน ก็อาจจะก่อให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนได้เช่นเดียวกัน
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: โดยปกติแล้วผู้หญิงจะเกิดไมเกรนได้ง่ายในช่วงที่มีประจำเดือน ซึ่งอาจจะมีความเป็นไปได้ว่าเกิดขึ้นเพราะความเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย อย่างเช่น เอสโทรเจนหรือฮอร์โมนในเพศหญิง ซึ่งจะเกิดอาการปวดหัวไมเกรนก่อนเป็นประจำเดือน 2 วัน จนไปถึงวันที่ 3 ของการมีประจำเดือน แต่ทั้งนี้เพศหญิงก็สามารถเป็นไมเกรนในช่วงอื่น ๆ ที่ไม่มีประจำเดือนได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นหากใครที่มีอาการปวดหัวไมเกรนบ่อย ๆ ไม่ว่าจะก่อนมีประจำเดือน หรือหลังมีประจำเดือน แนะนำให้ไปพบแพทย์จะดีที่สุด
สาเหตุของไมเกรนอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ดังนั้น เพื่อป้องกันปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจนำไปสู่ภาวะของการเกิดไมเกรน การดูแลสุขภาพเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงอยู่เสมอ จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามด้วยเช่นกัน
วิธีแก้ปวดไมเกรน อย่างไรให้ได้ผลดี
ทุกคนรู้หรือไม่ว่าไม่มีวิธีรักษาไมเกรนให้หายขาดได้ แต่จะสามารถรักษาเพื่อลดโอกาสของการปวดหัวไมเกรนอย่างเดียวเท่านั้น ดังนั้น หัวใจสำคัญของการรักษาไมเกรน คือ การรับมือและการป้องกันอาการปวดหัว เพื่อให้ผู้ป่วยลดความทรมานจากการปวดหัวนั่นเอง ทั้งนี้การรักษาอาการปวดไมเกรน แพทย์จะต้องพิจารณาตามระดับของความรุนแรงของอาการปวด (สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรึกษาแพทย์โดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลได้ที่บทความ รวมแอพปรึกษาหมอฟรี!)
ซึ่งหลัก ๆ แล้วจะเป็นการใช้ยาเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด แต่หากเรารับประทานยาที่บ่อยเกินไป ก็อาจจะส่งผลให้มีอาการปวดที่รุนแรงมากกว่าเดิมในครั้งถัดไป และอาจจะมีอาการปวดที่ถี่มากขึ้นได้เช่นกัน โดยการใช้ยาของแพทย์ที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้ดีที่สุด ส่วนใหญ่แล้วจะมีการให้ยา ดังนี้
- ยาบรรเทาอาการปวด: สำหรับผู้ป่วยคนไหนที่มีอาการปวดหัวแบบไม่รุนแรง หรือปานกลาง จะสามารถใช้ยาแอสไรริน ไอบูโพรเฟนหรือยาพาราเซตามอล ช่วยลดอาการปวดหัวไมเกรนได้บางราย แต่หากมีการใช้ยาประเภทนี้บ่อย ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็สามารถทำให้เกิดอาการแผลเปื่อย หรือแผลอักเสบได้ อีกทั้งยังก่อให้เกิดเลือดออกในกระเพาะอาหาร หรือลำไส้ หรือเกิดโรคปวดศีรษะเรื้อรังที่เป็นเหตุมาจากการใช้ยาแก้ปวดมากเกินไป
- ยาเออร์กอต: ยาประเภทนี้จะเป็นยาที่มีส่วนผสมของยา 2 ตัวเข้าด้วยกัน ระหว่างยาเออร์โกตามีน และคาเฟอีน ซึ่งยาประเภทนี้จะมีผลค้างเคียงในการใช้งาน คือ อาจจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ และอาเจียนได้ง่าย หากใช้ติดต่อกันนานเกินไปอาจจะทำให้เป็นโรคปวดศีรษะจากการใช้ยาแก้ปวดติดต่อกัน และอาจจะทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะในร่างกายได้อีกด้วย
- ยากลุ่มทริปแทน: สำหรับยาในกลุ่มนี้จะได้รับความนิยมใช้เป็นยาแก้ปวดไมเกรนมากที่สุด แถมยังเป็นกลุ่มยาที่สามารถใช้บรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งยังสามารถแก้อาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้เช่นกัน ทั้งอาการคลื่นไส้ ความไวต่อเสียงและแสง เป็นต้น สำหรับยาในกลุ่มนี้จะมีทั้งแบบยาเม็ด แบบพ่น และแบบฉีดเลยทีเดียว แต่จะมีผลข้างเคียงจากการใช้ยาด้วยเช่นกัน ได้แก่ อาการคลื่นไส้ เวียนหัว และกล้ามเนื้อล้า อีกทั้งยังไม่แนะนำให้ใช้ยาในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจอีกด้วย
สำหรับวิธีแก้ปวดไมเกรนจะเป็นเพียงวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการปวดอย่างเดียวเท่านั้น แต่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทั้งนี้หากใครที่มีอาการปวดหัวไมเกรนแบบเฉียบพลัน และมีอาการปวดรุนแรง จำเป็นต้องเข้าพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อให้แพทย์ได้ฉีดยาระงับอาการปวดหัว ไม่ควรใช้ยารักษาด้วยตัวเอง เพราะจะทำให้มีแนวโน้มเป็นไมเกรนเรื้อรังได้อีกด้วย ทั้งนี้ในปัจจุบันอาการปวดหัวไมเกรนในปัจจุบันจะสามารถพบได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะจะมีสิ่งเร้าต่าง ๆ อย่างมากมาย ทั้งปัญหาในเรื่องของมลภาวะต่าง ๆ ฝุ่น ควัน แสงแดด และเสียง ที่ล้วนเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดไมเกรนชั้นดีเลยทีเดียว
อ้างอิง
- แบบไหนกันที่เรียกว่า ปวดหัวไมเกรน. https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/แบบไหนกันที่เรียกว่า-ปว/
