หากคุณเป็นอีกคนที่สนใจดูเเลสุขภาพและต้องการให้ผิวแลดูฉ่ำวาวเหมือนดื่มน้ำสิบลิตรต่อวัน พร้อมที่จะดำดิ่งสู่ใต้ท้องทะเล ค้นพบขุมพลังแห่งความงามกับ คอลลาเจนจากปลา โปรตีนธรรมชาติอันทรงคุณค่าที่เต็มไปด้วยประโยชน์ต่อผิวพรรณมากมายแล้วหรือยัง? เนื่องด้วยคุณประโยชน์และขนาดโมเลกุลที่เล็กกว่าอาหารเสริมประเภทอื่น ๆ ปลอดภัยสูง นอกจากนี้ยังสามารถละลายในน้ำได้ ไม่จำเป็นต้องแข็งตัวและสามารถถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายดายมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับแหล่งจากสัตว์บก จึงทำให้ได้รับความสนใจอย่างมาก ในบทความนี้จะมาอธิบายเชิงลึกว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น แล้วบทสรุปสุดท้ายแล้วอาหารเสริมคอลลาเจนประเภทนี้ช่วยคุณได้อย่างไรบ้าง
ทำไมร่างกายของมนุษย์ถึงขาดคอลลาเจนไม่ได้?
นั่นก็เป็นเพราะว่า คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีอยู่ประมาณ 30% ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกายมนุษย์ มีบทบาทสำคัญในการสร้างและรักษาโครงสร้างของเนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ผิวหนัง กระดูก เอ็น กล้ามเนื้อ และหลอดเลือด ในผิวหนัง คอลลาเจนทำหน้าที่เป็นเส้นใยที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและยืดหยุ่น ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและกระชับ เมื่อคอลลาเจนในร่างกายลดลงจากการอายุมากขึ้น ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยจะเริ่มปรากฏ ทำให้ผิวดูไม่สดใส ในส่วนกระดูกและข้อ สารอาหารนี้เองเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกระดูก ช่วยป้องกันการเกิดกระดูกพรุนและข้อเสื่อม อีกทั้งยังช่วยลดอาการปวดข้อที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่พบในผู้สูงอายุ และในส่วนของเส้นผมและเล็บ คอลลาเจนจากธรรมชาติมีบทบาททำให้เส้นผมแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย และเล็บไม่แตกหักง่าย นอกจากนี้ ยังเกี่ยวข้องกับการเสริมสร้างเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อและหลอดเลือด ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าทำงานร่วมกับทุกส่วนของร่างกายและเป็นสารอาหารที่สำคัญมาก
คอลลาเจนจากปลา ทำไมน่าสนใจกว่าชนิดอื่น
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนปัจจุบัน อาหารเสริมคอลลาเจนที่มาจากปลาได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจาก มีโครงสร้างโมเลกุลที่เล็ก ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้ง่ายขึ้น ปลอดภัยสูงและมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าแหล่งสัตว์บก โดยงานวิจัยพบว่า ร่างกายสามารถดูดซึมได้มากกว่าถึง 1.5 เท่า เมื่อเทียบกับที่มาจากสัตว์บก นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคที่น้อยกว่า เนื่องจากปลามักไม่เป็นพาหะของโรคที่สามารถติดต่อมาถึงมนุษย์ เช่น โรควัวบ้า (BSE) และเชื้อรา (Fungal Infections) ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในสัตว์บก
ในบริบทของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แหล่งจากปลายังเป็นทางเลือกที่ยั่งยืน เนื่องจากการใช้ประโยชน์จากของเสียจากอุตสาหกรรมประมง เช่น หนังปลา, เกล็ด, และกระดูก ซึ่งหากไม่ถูกนำมาใช้ จะกลายเป็นขยะที่ก่อให้เกิดมลพิษ การนำของเสียเหล่านี้มาผลิตคอลลาเจน จึงเป็นการลดปริมาณขยะและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย จากการศึกษาในปี 2564 พบว่าตลาดคอลลาเจนที่ทำจากปลามีมูลค่าสูงถึง 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึงสามเท่าในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความนิยมและความต้องการในผลิตภัณฑ์เป็นส่วนประกอบในตลาดโลก
แหล่งที่มา
ส่วนที่ใช้ในการสกัด
การสกัดเป็นกระบวนการที่ใช้ประโยชน์จากส่วนต่าง ๆ ซึ่งมักเป็นส่วนที่ไม่ได้ใช้ในการบริโภคโดยตรง แต่มีปริมาณคอลลาเจนสูงและมีคุณค่าทางโภชนาการ ได้แก่
- หนัง: หนังปลาเป็นแหล่งคอลลาเจนที่สำคัญ เนื่องจากมีปริมาณสารอาหารสูง โดยหนังที่นิยมใช้ได้แก่ หนังปลาค้อดและหนังปลาแซลมอน
- เกล็ด: เป็นส่วนที่สามารถสกัดคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีปริมาณที่น่าสนใจ เกล็ดปลามักใช้ในการผลิตคอลลาเจนในอุตสาหกรรม
- กระดูกและส่วนอื่น ๆ: กระดูกปลา, หัวปลา, และส่วนครีบ ล้วนเป็นแหล่งสารอาหารที่มีคุณค่า โดยส่วนกระดูกมักถูกนำมาใช้ในการผลิตคอลลาเจนเพื่อการเสริมสร้างสุขภาพกระดูกและข้อ
ประเภทปลาที่นิยมใช้
กปลาบางชนิดมีปริมาณสารอาหารเสริมสูงและสามารถสกัดได้ง่าย ได้แก่
- ปลาค้อด (Cod): ในส่วนของหนังและเกล็ดปลาค้อดมักถูกนำมาใช้ในการผลิตอาหารเสริม
- ปลาสแน็ปเปอร์ (Snapper): ปลาสแน็ปเปอร์เป็นปลาที่มีเนื้อแน่นและมีคอลลาเจนในหนังและเกล็ด ปลาชนิดนี้ได้รับความนิยมในการสกัดเพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง
- ปลาแซลมอน (Salmon): เป็นปลาที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง นอกจากจะมีโอเมก้า-3 และวิตามินดีแล้ว ยังมีคอลลาเจนในหนังและเกล็ดสูง
วิธีการใช้อาหารเสริมให้ปลอดภัย
การบริโภค
เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มคนรักสุขภาพและความงาม เนื่องจากสามารถรับประทานได้ง่ายและเห็นผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว มีหลายวิธีการบริโภคที่สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการและไลฟ์สไตล์
- การเสริมอาหารและเครื่องดื่ม: คุณสามารถเพิ่มลงในอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ เช่น สมูทตี้, โยเกิร์ต, ชา, กาแฟ, และน้ำแกง เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ ช่วยให้ได้รับคอลลาเจนในปริมาณที่เพียงพอและเป็นวิธีที่ทำให้การกินทุก ๆ วันไม่น่าเบื่อ โดยข้อมูลจากการศึกษาในปี 2563 พบว่าผู้ที่บริโภควันละ 10 กรัม เป็นเวลา 8 สัปดาห์ จะมีการปรับปรุงคุณภาพผิวอย่างชัดเจน
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรูปแบบแคปซูลหรือเม็ด: เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สะดวกและง่ายต่อการควบคุมปริมาณการบริโภคต่อวัน ผลิตภัณฑ์เสริมในรูปแบบนี้ช่วยให้ได้รับคอลลาเจนที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย การบริโภค 2-3 เม็ดต่อวันช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิว, กระดูก, และข้อโดยรวมได้
การใช้ภายนอก
นอกจากการบริโภคแล้ว การใช้ภายนอกในรูปแบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ยังเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการดูแลผิวพรรณและลดเลือนริ้วรอย โดยมีหลายรูปแบบที่สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการและสภาพผิว ดังนี้:
- ครีมบำรุงผิวและโลชั่น: คอลลาเจนมักถูกใช้เป็นส่วนประกอบในครีมบำรุงผิวและโลชั่นต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้กับผิว ครีมบำรุงผิวช่วยลดเลือนริ้วรอยและความหย่อนคล้อยของผิวหนัง การใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมนี้อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่งและมีสุขภาพดี หรือแม้แต่ใช้เป็นครีมคอลลาเจนช่วยลดรอยแผลเป็น
- มาสก์หน้าและเซรั่ม: นอกจากครีมและเซรั่มที่พบเห็นได้ทั่วไปแล้ว ในผลิตภัณฑ์มาสก์หน้าและเซรั่มเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิว มาสก์หน้าช่วยฟื้นฟูผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำและเรียบเนียนทันที โดยการใช้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์จะช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ส่วนเซรั่มช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิว ลดเลือนจุดด่างดำและรอยแผลเป็น โดยสามารถใช้เซรั่มเป็นประจำทุกวันก่อนการทาครีมบำรุงผิว
ผลข้างเคียงและข้อควรระวัง
- อาการแพ้: บางคนอาจเกิดอาการแพ้จากการบริโภคหรือใช้ อาการแพ้ที่พบได้อาจรวมถึง ผื่นคัน ผิวหนังแดง หรืออาการหายใจลำบาก สำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้ปลา ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของปลาหรือสัตว์ทะเล
- ปัญหาทางเดินอาหาร: สำหรับบางคน อาจทำให้เกิดปัญหาทางเดินอาหาร เช่น อาการท้องอืด, ท้องเฟ้อ, หรือท้องเสีย หากเกิดอาการเหล่านี้ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์และปรึกษาแพทย์
ข้อควรระวังในการใช้
- การตรวจสอบแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์: การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยควรตรวจสอบแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ให้แน่ใจว่าเป็นสินค้าที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และควรเลือกที่มาจากปลาที่จับจากแหล่งธรรมชาติหรือฟาร์มที่ได้รับการควบคุมอย่างดี
- การปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้: ไม่ว่าคุณจะมีสุขภาพดี หรือมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติแพ้อาหารทะเลหรือมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมและป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
คอลลาเจนจากปลา และประโยชน์อีกมากมาย
ด้านบำรุงผิวพรรณ
มีคุณสมบัติที่ช่วยในการลดเลือนริ้วรอยและความหย่อนคล้อยของผิวหนังอย่างมีประสิทธิภาพ การบริโภคอาหารเสริมชนิดนี้ สามารถกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิวหนังได้มากขึ้น ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและตึงกระชับมากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและมีน้ำมีนวลมากขึ้น สามารถลดเลือนจุดด่างดำและรอยแผลเป็นได้อีกด้วย โดยมีงานวิจัยพบว่าผู้ที่บริโภคคอลลาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 8-12 สัปดาห์ จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในเรื่องของความชุ่มชื้นและการลดเลือนริ้วรอยได้ถึง 20-30% นอกจากนี้ยังพบว่าผิวหนังมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้นถึง 15-20% และความชุ่มชื้นของผิวหนังเพิ่มขึ้นถึง 10-15% อีกด้วย
สุขภาพกระดูกและข้อ
นอกเหนือประโยชน์ด้านผิวพรรณ มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและข้อ สามารถเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกได้ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดกระดูกพรุน ช่วยลดการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนในข้อ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดข้อ งานวิจัยหลายชิ้นพบว่าผู้ที่บริโภคคอลลาเจนจากปลาเป็นประจำมีอาการปวดข้อลดลงถึง 30-40% และสามารถทำกิจกรรมได้อย่างคล่องแคล่วขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยในการฟื้นฟูและการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้กระดูกและข้อกลับมามีสุขภาพดีได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มักประสบปัญหาดังกล่าว
ผมและเล็บ
มีประโยชน์ในการเสริมสร้างความแข็งแรงและเงางามของเส้นผม ช่วยให้เส้นผมมีความแข็งแรง ลดการหลุดร่วง และเพิ่มความหนาแน่นของเส้นผม เสริมสร้างความแข็งแรงของเล็บ ทำให้เล็บไม่แตกหักง่ายและมีสุขภาพดีขึ้น หากคุณเป็นประจำมีสุขภาพผมและเล็บที่ดีขึ้นภายในเวลา 2-3 เดือน จะเห็นผลลัพธ์ได้ว่าเส้นผมมีความแข็งแรงและเงางามมากขึ้นถึง 25-30% และเล็บมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นถึง 20-25%
สุขภาพลำไส้
ช่วยปรับปรุงการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร คอลลาเจนช่วยเพิ่มความแข็งแรงของผนังลำไส้ ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งมีประโยชน์ในการลดอาการของโรคที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบของลำไส้ เช่น โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD) การบริโภคคอลลาเจนจากปลายังช่วยส่งเสริมการสร้างเนื้อเยื่อในลำไส้ ทำให้ลำไส้มีสุขภาพดีขึ้นและสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผู้ที่บริโภคเป็นประจำมีการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหารที่ดีขึ้นถึง 15-20% และมีอาการอักเสบลดลงถึง 25-30%
ข้อดีของการใช้คอลลาเจนจากปลาไม่เพียงแค่ช่วยในด้านความงาม แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพทั่วไป เนื่องจากเป็นแหล่งอาหารเสริมที่ปลอดภัย ไม่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโรคที่พบในสัตว์บก และยังเป็นแหล่งที่ยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ด้วยโครงสร้างโมเลกุลที่เล็ก ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมและใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานเป็นประจำและควบคู่กับรูทีนดูแลผิว จะช่วยให้ร่างกายได้รับคอลลาเจนที่เพียงพอต่อความต้องการ และส่งเสริมให้ชั้นผิวอิ่มฟูไร้ริ้วรอยก่อนวัย แต่ทั้งนี้หากคุณพบว่าตนเองนั้นแพ้ปลาหรืออาหารทะเล เราแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญเพื่อค้นหารูปแบบผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและปลอดภัยมากที่สุด
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
1. คอลลาเจนจากปลาเหมาะกับผู้ที่แพ้อาหารทะเลหรือไม่?
โดยทั่วไปไม่เหมาะ กับผู้ที่แพ้อาหารทะเล แม้ว่าจะมีโครงสร้างโมเลกุลที่แตกต่างจากโปรตีนในเนื้อปลา แต่กระบวนการผลิตคอลลาเจนอาจยังคงมี สารก่อภูมิแพ้จากปลาปนเปื้อนอยู่
2. การบริโภคคอลลาเจนจากปลาช่วยลดอาการปวดข้อได้หรือไม่?
สามารถช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อกระดูกอ่อน ทำให้ลดอาการปวดข้อและช่วยให้ข้อมีความยืดหยุ่นมากขึ้น งานวิจัยบางชิ้นพบว่าผู้ที่บริโภคอย่างต่อเนื่องมีอาการปวดข้อลดลงและการเคลื่อนไหวของข้อดีขึ้น
3. วิธีการเลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีคุณภาพมีอะไรบ้าง?
คุณควรตรวจสอบแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ว่ามาจากแหล่งที่ได้รับการรับรอง เลือกสินค้าที่มีการทดสอบและรับรองความปลอดภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และปลาที่จับจากแหล่งธรรมชาติหรือฟาร์มที่ได้รับการควบคุมอย่างดี
4. เราสามารถใช้คอลลาเจนจากปลาในรูปแบบใดบ้าง?
สามารถใช้ได้ทั้งในรูปแบบการบริโภคและการใช้ภายนอก การบริโภคสามารถทำได้โดยการผสมคอลลาเจนในอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ เหรือในรูปแบบแคปซูลหรือเม็ด ส่วนการใช้ภายนอกสามารถใช้ครีมบำรุงผิว โลชั่น มาสก์หน้า และเซรั่มที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในขั้นตอนการบำรุงผิว
อ้างอิง
- Alexandra Benisek, What Is Marine Collagen?, WebMD, March 17, 2021, https://www.webmd.com/beauty/marine-collagen
- Marine Collagen from Alternative and Sustainable Sources: Extraction, Processing and Applications, NIH, April 15, 2020, https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7230273/
- Stephanie Eckelkamp, Marine Collagen: 6 Health Benefits, Side Effects & More, MindBody Green, May 13, 2022, https://www.mindbodygreen.com/articles/marine-collagen-101